วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

คำถามพัฒนากระบวนการคิด

คำถามพัฒนากระบวนการคิด
1.สาเหตุมำคัญที่สุดที่คอมพิวเตอร์ถูกนำมาใช้แทนมนุษย์คืออะไร
ตอบ เพราะบางอย่างที่มนุษย์ทำไม่ได้แต่คอมพิวเตอร์ทำได้ 
2.นักเรียนจะใช้คอมพิวเตอร์ที่มีคุณลักษณะใด เพื่อเก็บข้อมูลสัมภาษณ์ การทำรายงานถ่ายภาพและเก็บรูปภาพ เพราะอะไร
ตอบ การใช้งานแบบสื่อประสม เพราะ ใช้ได้ทั้งทำรายงานและเก็บรูปภาพที่เป็นภาพถ่าย
3.การใช้คอมพิวเตอร์ในสำนักงานกับการใช้งานสำหรับประมวลผล มีความแตกต่างกันในด้านใดบ้าง
ตอบ การใช้งานในแบบสำนักงานเป็นแบบที่เหมาะสำหรับการทำงานนำเสนอในรูปแบบต่างๆ ส่วนการใช้งานสำหรับประมวลผล เหมาะสำหรับนักวิชาการที่ต้องกรอกข้อมูลที่เป็นตัวเลขลงไป
4.ถ้านำเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีคุณลักษณะใช้สร้างสื่อมัลติมีเดีย มาใช้ในงานเอกสารภายในสำนักงาน มีข้อดีและข้อเสียอบ่างไร
ตอบ ข้อดีคือ ถ้าหากภายในงานเอกสารมีภาพหรือภาพเคลื่อนไหวจะช่วยทำให้การทำงานเร็วขึ้น ข้อเสียคือ เป็นการใช้งานที่ผิดความจำเป็น
5.การทำงานเพื่อผลิตสื่อมัลติมีเดีย ควรเลือกจอแสดงผลที่มีคุณลักษณะใด เพราะเหตุใด
ตอบ มีจอภาพแบบ LCD มี Contrast Ratio ไม่น้อยกว่า 600:1มีขนาดไม่น้อยกว่า 18 นิ้ว
6.คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบเครื่องชุด และเครื่องประกอบมีความแตกต่างกันอย่างไร
ตอบ แบบชุดจะได้มาตรฐานกว่า มีประกันสินค้า แต่ราคาอาจจะแพง ส่วนแบบประกอบอ่จจะไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีประกันสินค้า ราคาถูกกว่าแบบชุด และได้คอมพิวเตอร์ตรงตามความต้องการมากที่สุด
7.ความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มีผลกระทบต่อการทำงานอย่างไร
ตอบ เข้ากับวินโดวส์ไม่ได้หรือเข้าได้แต่ทำงานหนัก
8.ในการเลือกซื้อฮาร์ดแวร์จากแหล่งขาย มีข้อควรพิจารณาอย่างไร
ตอบ ดูความเร็ว หน่วยความจำเคส บัส และน้ำหนักเบา
9.นักเรียนคิดว่าหลักการเลือกซื้อซอฟต์แวร์ ข้อใดสำคัญมากที่สุด เพราะเหตุใด
ตอบ ความเข้ากันได้ เพราะ ถ้าหากเข้ากันไม่ได้อาจเกิดข้อผิดพลาดได้หลายประการ






การใช้ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับงาน

หลักการเลือกคุณลักษณะของความพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
     คอมพิวเตอร์มีคุณสมบัติการใช้งานที่หลากหลายเพื่อให้รองรับการทำงานในแต่ละรูปแบบของแต่ละผู้ใช้
     1.วิเคราะห์วัตถุประสงค์ของการใช้งาน
     วิเคราะห์เพื่อให้รู้ว่าคุณสมบัตินั้นๆเหมาะสมกับการใช้งานคอมพิวเตอร์ของเราหรือไม่
1.1การใช้งานสำนักงานและงานนำเสนอทั้วไป(Home & Office)
     การใช้งานระบบขั้นพื้นฐานส่วนมากใช้ในการรายงาน โครงงาน หรือสไลด์เพื่อใช้ในการประกอบการศึกษา การใช้งานในลักษณะนี้จะเน้นการนำเข้าข้อมูลด้วยแผงแป้นอักขระและเมาส์ แสดงผลทางหน้าจอหรือพิมพ์ออกมาเป็นเอกสาร
1.2การใช้งานประมาณผล(Computing)
     การใช้งานประเภทนี้เป็นการใช้งานแบบนำเข้าข้อมูลด้วยตัวเลข การคำนวณ ผลที่ออกมาจะแสดงผลอยู่ในรูปแบบจำลองกราฟิก 2 มิติหรือ 3 มิติทางจอแสดงผล
1.3การใช้สื่อประสม(Multimedia)
     เป็นการใช้งานที่มีการนำเข้าข้อมูลอย่างหลากหลาย เช่น ตัวเลข แผงแป้นอักขระ  นำเข้าโดยอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆ เป็นต้น ซึ่งการนำเข้าข้อมูลประเภทนี้ต้องการการประมวลผลที่มากและใช้ทรัพยากรระบบค่อนข้างสูง ส่วนมากจะใช้ในการสร้างงาน ภาพเคลื่อนไหว แอนนิเมชั่น เป็นต้น
     2.เลือกคอมพิวเตอร์ตามลักษณะการใช้งาน
     คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท และได้รับการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นของผู้คนในปัจจุบัน
2.1งานนอกสถานที่
     งานนอกสถานที่เป็นงานที่ต้องการคอมพิวเตอร์ที่สามารถพกพาได้ สะดวก และพร้อมใช้งานทุกสถานการณ์ พอจำแนกได้ดังนี้
     1.คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก(Notebook) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก พกพาสะดวก น้ำหนักเบา ขนาดเล็ก มีการเชื่อมต่อโดยเครือข่ายมีสายและไร้สาย การใช้งานนี้เหมาะสมสำหรับนักธุรกิจ นักการขาย นักวิชาการ วิทยากรเป็นต้น
     2.คอมพิวเตอร์เน็ตบุ๊ก(Net book) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กกว่าโน๊ตบุ๊ก มีอุปกรณ์เชื่อมต่อเหมือนโน๊ตบุ๊กทุกประการ มีหน่วยความจำกลางขาดจิ๋ว ไม่มีเครื่องอ่านแผ่นซีดี ดีวีดี น้ำหนักเบากว่าโน๊ตบุ๊ก เกิดความร้อนน้อย และราคาที่ถูกกว่าโน๊ตบุ๊กอีกด้วย
     3.แท็บเลตคอมพิวเตอร์(Tablet Computer) เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รวมอุปกรณ์ต่างๆไว้ในหน้าจอสัมผัส โดยแสดงผลผ่านหน้าจอสัมผัสนั้น
2.2งานในสถานที่
     เป็นลักษณะงานในสำนักงาน ไม่มีการเคลื่อนที่คอมพิวเตอร์ โดยมีองค์ประกอบหลักในการใช้งานดังนี้
     1.เครื่องชุด เป็นคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปที่ซื้อมาแล้วพร้อมใช้งาน เป็นคอมพิวเตอร์ที่เป็นชุดเดียวกันหมดหรือบางครั้งอาจเรียกว่าเครื่องแบรนด์เนม ซึ่งมีผู้ผลิตรายเดียวกันหมดทั้งชุด มีข้อดีคือมีราคาที่แน่นอน การออกแบบดี การติดตั้งโปรแกรมหรืออุปกรณ์ต่างๆได้มาตรฐาน ทันสมัย สวยงาม และ คงทน
     2.เครื่องประกอบ เป็นคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้งานต้องซื้ออุปกรณ์ต่างๆมาประกอบเอง และลงโปรแกรมเองทั้งหมด ดีที่จะได้คอมพิวเตอร์ตามสเป็กที่เราต้องการมากที่สุด ข้อเสียคือไม่มีการรับประกันสินค้า ดังนั้นเวลามันพังมาอาจซ้อมยากหน่อย
     3.การเลือกฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน
     ในการเลือกคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมกับงานนั้น เมื่อได้วิเคราะห์วัตถุประสงค์และลักษณะของการใช้งานแล้ว ผู้ใช้สามารถตัดสินใจเลือกคุณลักษณะฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้ง่ายขึ้น ในการกำหนดคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์นั้น จำเป็นต้องพิจารณาด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ไปพร้อมๆกัน เนื่องจากพัฒนาของเทคโนโลยีทั้งด้านฮาร์ดแวร์ก่อน อาจจะส่งผลให้ไม่สามารถใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่ต้องการได้ การเลือกคุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ตามวัตถุประสงค์การใช้งานมีรายละเอียดดังนี้
     3.1 การใช้งานสำนักงานและงานนำเสนอทั่วไป
- มีหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ที่มีความเร็วสัญญาณนาฬิกามากกว่า 2.4 กิกะเฮิร์ต
- มีส่วนควบคุมการแสดงผลที่มีหน่วยความจำมากกว่า 128 เมกะไบต์(MB)
- มีหน่วยความจำหลัก (RAM) ชนิดดีดีอาร์ทรี (DDR3) หรือดีกว่า มีขนาดมากกว่า 2 กิกะไบต์(GB)
- มีหน่วยความจัดเก็บข้อมูล (Hard Disk) ชนิด SATA หรือดีกว่า ขนาดความจุมากกว่า 250 กิกะไบต์ หรือมี Solid State Disk ขนาดความจุมากกว่า 30 กิกะไบต์จำนวน 1 หน่วย
- มีเครื่องอ่านและเขียนดีวีดี หรือดีกว่า จำนวน 1 หน่วย
- มีช่องเชื่อมต่อระบบเครือข่าย แบบ 10/100/1,000 เมกะไบต์ต่อวินาที จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ช่อง
- มีจอภาพ LCD มี Contrast Ratio มากกว่า 600:1 และมีขนาดมากกว่า 18 นิ้ว จำนวนหนึ่งหน่วย
     3.2 การใช้งานประมวล
- มีหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) ได้น้อยกว่า 2 แกนหลัก (2 core) และมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาไม่น้อยกว่า 2.5 กิกะเฮิร์ต และมีความเร็วของหน่วยความจำ หรือมี HTT ขนาดไม่น้อยกว่า 1,066 เมกะเฮิร์ต
- มีหน่วยประมวลผลเพื่อแสดงภาพแยกจากแผ่งวงจรหลัก ที่มีหน่วยความจำขนาดมากกว่า 512 เมกะไบต์
- มีหน่วยความจำหลักชนิด DDR3 หรือดีกว่า มีขนาดมากกว่า 4 กิกะไบต์
- มีหน่วยจัดเก็บข้อมูล ชนิด เอเอสทีเอ หรือดีกว่า มีขนาดความจุมากกว่า 500 กิกะไบต์ จำนวน 1 หน่วย
- ที่เหลือเหมือนข้อ 3.1
     3.3 การใช้สื่อประสม
- มีหน่วยประมวลผลกลาง ไม่น้อยกว่า 4 แกนหลัก และมีความเร็วสัญญาณนาฬิกามากกว่า 2..6 กิกะเฮิร์ต และมีความเร็วของหน่วยความจำขนาดไม่น้อยกว่า 1,066 เมกะเฮิร์ต
- มีหน่วยประมวลผลเพื่อแสดงภาพแยกจากแผ่งวงจรหลัก ที่มีหน่วยความไม่น้อยกว่า 1 กิกะไบตื
- มีหน่วยจัดเก็บความจำหลัก ชนิดดีดีอาร์ที หรือดีกว่า มีขนาดไม่น้อยกว่า 4 กิกะไบต์
- มีหน่วยจัดเก็บข้อมูล ชนิด เอสเอทีเอ หรือดีกว่า ขนาดความจุไม่น้อยกว่า 1 เทระไบต์
- ที่เหลือเหมือนข้อ 3.1และ3.2
     เนื่องจากคอมพิวเตอร์ได้มีการพัฒนาขึ้นไปมาก และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา คุณสมบัติดังกล่าว อาจจะไม่ตายตัว อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลาและยุคสมัยเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย
     4.แหล่งขาย
     แหล่งขายเป็นปัจจัยหนึ่งของการเลือกฮาร์ดแวรื เพื่อให้เหมาะสมกับงาน มีข้อพิจารณาแหล่งขายดังนี้
     4.1 มีความน่าเชื่อถือ
ควรเป็นสถานที่ตั้งที่แน่นอนไม่ใช่แผงเช่าถูกๆหรือนิทัศการต่างๆ เพราะสินค้าอาจเป็นของปลอม ดังนั้นซื้อจากร้านจำหน่ายที่เป็นหลักแหล่งจะดีกว่า
     4.2 มีการแข่งขันสูง
ทำให้สามารถต่อราคาได้ ยิ่งถ้าเป็นย่านที่ค้าด้านนี้เฉพาะจะยิ่งถูกมาก
     4.3 มีประสบการณ์
ผู้จำหน่ายต้องมีประสบการณ์พอสมควร หากไม่มีข้อมูลที่เพียงพออาจจะทำให้ผู้ซื้อได้ข้อมูลที่ผิดๆได้
     4.4 มีช่องทางการติดต่อ
ถ้าหากเราต้องการเปลี่ยนสินค้าเราจะได้เปลี่ยนถูก และจะได้รับคำแนะนำที่ดีจากผู้ขาย
     4.5 เงื่อนไขรับประกัน
เป็นการสร้างความหน้าเชื่อถือของร้านและอุปกรณ์ ดดยปกติอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จะมีการรับประกันอยู่แล้ว
หลักการเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับงาน
     ซอฟต์แวร์ประเภทซอฟต์แวร์ประยุกเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับคอมพิวเตอร์เพราะช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน โดยมีหลักการเลือกซอฟต์แวร์ดังนี้
     1.ความสามารถในการทำงาน 
     เป็นหลักการในอันดับต้นที่ผู้ใช้ซอฟต์แวร์จะต้องเลือกเพื่อให้ซอฟต็แวร์ที่ติดตั้งนั้น สามารถตอบสนองต่อการทำงาน สามารถช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวก และเกิดประสิทธิ์ภาพในการทำงานมากที่สุด
     2.การติดต่อกับผู้ใช้
     รูปแบบของซอฟต์แวร์ต้องออกแบบมาเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายต่อการทำงาน เช่น เป็นรูปแบบไอคอน เพื่อง่ายต่อการทำงานมากขึ้น เป็นต้น
     3.ความเข้ากันได้
     ความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์สำเร็จรูป เป็นหลักการที่ต้องพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบอย่างเหมาะสม เนื่องจากอาจทำให้เกิดการทำงานไม่เต็มที่ หรือส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ได้ มีข้อต้องคำนึง 2 ส่วนดังนี้
     1.ความเข้ากันได้ของฮาร์ดแวร์
ต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ในการใช้งานให้คู่กันไปของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ คือ ต้องเข้ากันได้ ควรเลือกให้สัมพันะ์กันมากที่สุด เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด
     2.ความเป็นกันได้ของซอฟต์แวร์
คำนึงถึงความเข้ากันได้ของระบบปฏิบัติการซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ ความเข้ากันได้ของรุ่นคอมพิวเตอร์ ตลอดจนความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ด้วยกันเอง
     4.การติดตั้งและการดูแลรักษา
     ซอฟต์แวร์ทั่วไปจะต้องติดตั้งง่าย มีระบบการตรวจสอบการติดตั้ง ระบบช่วยเหลือ เพื่อความสะดวกในการใช้งานของผู้ใช้เองด้วย
     5.กลุ่มผู้ใช้
     หากมีผู้ใช้มากๆก็เป็นการรับรองคุณภาพได้ว่า ของเขาดีจริง จึงมีคนใช้มาก